เคยไหม ตื่นเช้ามาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหมอกสีขาวปกคลุมแล้วก็แอบดีใจเพราะคิดว่าอากาศเริ่มเย็นลง แต่พอเปิดหน้าต่างหรือก้าวเท้าออกจากบ้านถึงได้สัมผัสความจริงว่าอากาศยังร้อนเหมือนเดิม และที่เห็นอยู่นั้นไม่ใช่หมอก แต่เป็นฝุ่น PM 2.5 ที่ยังคอยวนเวียนมารังควานคนไทยเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในแถบภาคเหนือ หรืออยู่ในเมืองที่แออัดไปด้วยมลภาวะ และมีตึกสูงรายล้อม
ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง และอาจร้ายแรงกว่าที่คุณคิด เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการแสบเคืองตา แสบจมูก เกิดผื่นคันตามผิวหนัง ยังมีโอกาสทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และโรคปอด หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด กระตุ้นอาการภูมิแพ้ รวมทั้งอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง และถุงลมโป่งพองได้อีกด้วย
ใครบ้างที่ควรต้องระวังมากเป็นพิเศษ? อ้างอิงข้อมูลจากโรงพยาบาลสมิตเวช กลุ่มเสี่ยงแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
เด็ก ยิ่งอายุน้อย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิคุ้มกันโรคน้อยกว่าผู้ใหญ่ อวัยวะต่างๆ ในร่างกายยังอยู่ในระยะที่กำลังพัฒนา ทั้งนี้ฝุ่นพิษในอากาศที่สามารถเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดได้ง่ายจะไปขัดขวางการเจริญเติบโตของระบบต่างๆ หรือทำให้เกิดโรคร้ายแรงขึ้นได้
หญิงมีครรภ์ นอกจากภัยร้ายจะส่งผลโดยตรงต่อตัวคุณแม่ตั้งครรภ์ที่สูดฝุ่นละอองแล้ว ทารกในครรภ์ยังเป็นอันตรายด้วยเช่นกัน จากการศึกษาพบว่ามลพิษในอากาศมีผลต่อการคลอดก่อนกำหนด เสี่ยงแท้งบุตร และเพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์อีกด้วย
ผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้น อวัยวะในร่างกายเริ่มเสื่อมถอยตามกาลเวลา ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายเสื่อมสภาพลง รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน หากต้องเผชิญกับฝุ่นละอองจึงอาจมีแนวโน้มเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหอบหืด โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญฝุ่นพิษให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ผู้ป่วยหรือมีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ โรคปอด และโรคหัวใจชนิดต่างๆ การสูดฝุ่นผงเข้าสู่ร่างกายโดยตรงส่งผลให้โรคกำเริบได้ จึงควรป้องกันตัวเองอย่างระมัดระวังด้วยการสวมใส่หน้ากาก หรืออยู่ในที่ที่มีเครื่องฟอกอากาศ
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ในวัยไหน ก็มีโอกาสได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ดังนั้น ไอเทมที่ขาดไม่ได้เมื่อต้องออกจากบ้านก็คือหน้ากากอนามัยมาตรฐาน N95 หรือหากอยู่บ้านก็จำเป็นต้องป้องกันตัวเช่นกัน เพราะฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กจิ๋ว มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ดังนั้นควรมีเครื่องฟอกอากาศ หรือ Air Purifier ที่สามารถรับมือกับ PM 2.5 ได้ ยิ่งถ้าบ้านของคุณมีสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยิ่งต้องทำบ้านให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจากฝุ่น
นอกจากนี้ ยังควรการเลือกใช้งานประตู หน้าต่าง ที่มั่นใจว่าออกแบบมาให้สามารถปิดได้อย่างแนบสนิท ไม่มีช่องว่างหรือจุดรั่วซึมให้ฝุ่นเข้า อย่างประตู หน้าต่าง รุ่น Smart จากวินด์เซอร์ ที่ผ่านการออกแบบให้วงกบและกรอบบานปิดได้อย่างแนบสนิท พร้อมเทคโนโลยีเชื่อมมุมวงกบและกรอบบานด้วยความร้อน จนผิววัสดุหลอมเป็นเนื้อเดียวกัน จึงสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมทั่วไป และยังป้องกันการรั่วซึมของน้ำและอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตด้วยวัสดุไวนิลสูตรพิเศษที่ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศประเทศไทยที่ร้อนชื้น และยังเป็นวัสดุที่ไม่มีปัญหาเรื่องปลวกหรือแมลงกัดเจาะ การผุกร่อน บิดงอ หรือการเกิดสนิมอีกด้วย
ประตู หน้าต่าง วินด์เซอร์ รุ่น Smart มีดีไซน์ระบบบานเลื่อนที่ปิดแน่นหนา ยิ่งปิด ยิ่งแน่น ยิ่งแข็งแรง จนรู้สึกได้ ด้วย Z-Lock Technology และยังมีดีไซน์ทรงคิ้วประดับที่ให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ เข้ากับทุกสไตล์บ้าน
- Modern โมเดิร์น สมัยใหม่ เรียบสวยแต่มีสไตล์ (ขนาด 7 ชม.)
- Contemporary ร่วมสมัย ย้อนยุค Y2K (ขนาด 7 ชม.)
- Flat เรียบง่าย สบายตา (ขนาด 7 ชม.)
- Small น้อยแต่มาก ให้บ้านดูมินิมอล (ขนาด 3.5 ชม.)
ประตู หน้าต่าง WINDSOR ปิดแนบสนิท ไร้กังวล ไม่ต้องกลัวฝุ่นเข้าบ้าน
คลิก ดูรายละเอียดสินค้าวินด์เซอร์ รุ่น Smart
สนใจติดตั้งประตูหน้าต่างไวนิล วินด์เซอร์ ติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ